Last updated: 31 ส.ค. 2568 |
การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และกรมศุลกากรได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อเชื่อมต่อระบบสแกนตู้คอนเทนเนอร์สินค้าด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ (Scanning System) ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของท่าเรือไทยสู่ระดับสากล นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า โครงการนี้จะเริ่มต้นที่ท่าเรือแหลมฉบังก่อน จากนั้นจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อประเมินความพร้อมและขยายผลไปยังท่าเรืออื่น ๆ โดยตั้งเป้าให้การตรวจสอบมีความรวดเร็ว โปร่งใส และแม่นยำยิ่งขึ้น ทั้งยังตอบโจทย์ข้อกังวลจากประเทศคู่ค้าเรื่องการลักลอบสินค้าผ่านแดน (Transshipment) และสินค้าด้อยคุณภาพที่อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นด้านการค้า
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวเสริมว่า ระบบใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ โดยการสแกนตู้สินค้าจะครอบคลุมมากกว่าการสุ่มตรวจแบบเดิม ลดการเปิดตู้เอ็กซเรย์ที่ใช้เวลานาน และลดภาระค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ขณะเดียวกันยังช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ เพราะกระบวนการตรวจสอบทำได้รวดเร็วและเป็นระบบมากขึ้น สำหรับประเทศไทยซึ่งเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการค้าโลก การสแกนตู้สินค้าไม่เพียงช่วยป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนหรือผิดกฎหมาย แต่ยังสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้าต่างชาติ ว่าท่าเรือไทยมีมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ
การสแกนตู้สินค้าคือกระบวนการตรวจสอบสินค้าภายในตู้คอนเทนเนอร์ด้วยเทคโนโลยีเอ็กซเรย์ความเร็วสูง โดยไม่จำเป็นต้องเปิดตู้จริง ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจจับสินค้าต้องห้าม เช่น
รวมทั้งตรวจสอบการสวมสิทธิ์ผ่านแดน (Transshipment) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดีที่สำคัญของระบบสแกนตู้สินค้าคือช่วยประหยัดเวลา ลดความล่าช้าในการส่งออกนำเข้า และเสริมความโปร่งใสในระบบโลจิสติกส์โลก ความร่วมมือครั้งนี้ยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Ignite Thailand ที่มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับโลก โดยตั้งเป้าลดสัดส่วนสินค้าผิดกฎหมายและสินค้าด้อยคุณภาพลงอย่างมีนัยสำคัญ ผ่านการตรวจสอบที่เข้มข้นและต่อเนื่องในอนาคต
31 ส.ค. 2568